พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                               เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๙ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญา "อัครศิลปิน" แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบัน ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นเอตทัคคะในศิลปะหลายสาขา เป็นต้นว่า ดุริยางคศิลป์ ทัศนศิลป์ และนฤมิตศิลป์เป็นต้น  
                ในด้านดุริยางคศิลป์ เป็นที่ประจักษ์กันทั่วไป   ทั้งในและนอกประเทศว่าทรงดนตรีได้หลายชนิดและได้พระราชนิพนธ์เพลงไว้เป็นจำนวนมากจน สถาบันดนตรีต่างประเทศ  ยกย่องว่าทรงเป็นเอกในทางดนตรีพระองค์หนึ่ง           นอกจากนั้น ยังได้ทรงส่งเสริมเพลงไทยได้พระราชทานเงินจำนวนหนึ่ง ให้แก่กรมศิลปากรให้รวบรวมเพลงไทยเดิม พิมพ์ออกจำหน่าย แก่นักศึกษาและประชาชน   ที่สนใจ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ทรงเรียนซอสามสายและซอด้วง ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
         ด้านทัศนศิลป์ ก็ปรากฏว่าทรงชำนาญทั้งในการถ่ายรูป และการเขียนภาพสีน้ำมัน มีผลงานเป็นจำนวนมาก  นอกจากศิลปะแขนงต่างๆ ดังกล่าวแล้ว     ยังทรงพระปรีชาสามารถในการออกแบบและทรงก่อสร้างเรือใบด้วยฝีพระหัตถ์    ทั้งทรงร่วมแข่งขันในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่๔ พุทธศักราช ๒๕๑๐ ปรากฏว่าทรงชนะเป็นที่ ๑ ประเภทโอเค คำว่า"อัครศิลปิน"แปลตามศัพท์ว่าผู้มีศิลปะอันเลอเลิศหรือจะหมายเอาว่าเป็นผู้ใหญ่ในศิลปินก็ได้เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากจะทรงเป็นเลิศในศิลปะทั้งปวงแล้ว พระองค์ยังทรงมีคุณูปการได้ทรงอุปถัมภ์ศิลปินทั้งหลายมาโดยตลอดอีกด้วย